จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2554


คำว่าเยาวชนนั้น หมายถึง บุคคลที่มีอายุเกิน 14 ปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์ และไม่ใช่ เป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้วด้วยการสมรส เมื่อพูดถึงเยาวชนหลายคนคงนึกถึงตนเองที่อาจจะเป็นอยู่ หรือหลายคนอาจจะเลยคำนี้มานานแล้ว (- -“) แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า วันเยาวชนแห่งชาติ วันนี้มีอยู่ด้วยเหรอ การที่ประเทศไทยกำหนดให้มีวันเยาวชนขึ้นมานั้นเพื่ออะไร แล้ววันเยาวชนแห่งชาติให้อะไรแก่เยาวชนบ้าง รวมทั้งประวัติความเป็นมาของวันเยาวชนแห่งชาติเป็นอย่างไร และเมื่อกำหนดให้มีวันนี้เกิดขึ้นแล้วทำให้เยาวชนไทยมีการพัฒนาทางด้านไหนบ้าง รวมทั้งการปฏิบัติตัวในวันเยาวชนของเยาวชนชาวไทยด้วย เราไปดูกันเลยดีกว่า

ประวัติและที่มาของวันเยาวชนแห่งชาติ

เรามาเริ่มกันที่ประวัติและที่มาของวันเยาวชนกันดีกว่าเพื่อที่เราจะได้ทราบรายละเอียดที่แท้จริงกัน ประวัติความเป็นมาของวันเยาวชนแห่งชาติได้เริ่มมีขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2528 หลังจากที่องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้ปี พ.ศ. 2528 เป็นปีเยาวชนสากล
ดังนั้น เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2528 คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติกำหนดให้วันที่ 20 กันยายน ของทุกปีเป็นวันเยาวชนแห่งชาติ เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชสมภพเมื่อ วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2396 และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทรงพระราชสมภพเมื่อ วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2468 โดยพระมหากษัตริย์ทั้งสองพระองค์ ได้ขึ้นครองราชย์สมบัติขณะยังทรงพระเยาว์ด้วยนั้นเอง

สิ่งที่ประเทศไทยคาดหวังกับเยาวชนของชาติ

ประเทศไทยได้มีการส่งเสริมให้เยาวชนที่กระจายกันทั่วประเทศได้ตระหนักว่า เยาวชนต้องเข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบในการพัฒนาชาติให้มีความมั่นคงและเจริญรุ่งเรือง และพัฒนาประเทศไทยไปในทางที่ดีขึ้น โดยเริ่มจากการพัฒนาตนเองให้เป็นผู้มีค่านิยมในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพูดภาษาไทยให้ถูกต้อง  การรู้จักให้ความเคารพต่อผู้ใหญ่และผู้ที่มีบุญคุณทุกท่าน ด้วยการแต่งกายที่เหมาะสมถูกกาลเทศะ แล้วยังรวมถึงการรู้จักเรื่องเวลาทำตัวให้มีประโยชน์ต่อประเทศและครอบครัว
เยาวชนจะต้องมีความภาคภูมิใจ และหวงแหนอนุรักษ์ความเป็นไทยไว้ รู้จักอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย รู้จักการอดออมและประหยัด รวมทั้งการบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ เท่านี้ก็จะทำให้เป็นเยาวชนที่ดีแล้ว และยังส่งผลให้เป็นประชากรที่มีคุณภาพของประเทศต่อไปด้วย นอกจากนี้แล้วหน่วยงานของรัฐ รวมทั้งหน่วยงานภาคเอกชนก็มีส่วนสำคัญในการช่วยพัฒนาและส่งเสริมให้เยาวชนของชาติเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ
แต่สถาบันที่มีความสำคัญเป็นอันดับแรกในการพัฒนาเยาวชนของชาติให้มีคุณภาพนั้นก็คือ สถาบันครอบครัว ซึ่งหากพ่อแม่มีความเข้าใจ เอาใจใส่ ดูแล ทะนุถนอม ให้ความรักความอบอุ่นแก่ลูกหลานที่อยู่ในความปกครองอย่างถูกต้องแล้ว ก็จะมีส่วนเป็นอย่างมากในการที่จะนำพาเยาวชนให้เป็นบุคคลที่มีทั้งคุณภาพและคุณธรรมในการดำรงชีวิตต่อไปในอนาคต
ต่อมาเรามาดูคำขวัญวันเยาวชนกันดีกว่า ว่ามีคำขวัญว่าอย่างไรบ้าง และเราสามารถนำเอาคำขวัญนั้นมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันของเราได้อย่างไรบ้าง

คำขวัญวันเยาวชนแห่งชาติ “ร่วมแรงแข็งขัน ช่วยกันพัฒนา ใฝ่หาสันติ”

องค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้ปี 2528 เป็นปีเยาวชนสากล โดยใช้คำขวัญ “Participation, Development and Peace” ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้วันที่ 20 กันยายนของทุกปี เป็นวันเยาวชนแห่งชาติ และมอบคำขวัญที่แปลเป็นภาษาไทยว่า “ร่วมแรงแข็งขัน ช่วยกันพัฒนา ใฝ่หาสันติ” ซึ่งมีความหมายละเอียดลึกซึ้งต่อเยาวชนทุกคน สามารถยึดถือและนำไปปฏิบัติดังนี้

ความหมายคำขวัญวันเยาวชนแห่งชาติ : ร่วมแรงแข็งขัน (participation)

ร่วมแรงแข็งขัน (participation) หมายถึง การที่เยาวชนให้การยอมรับในศักยภาพของแต่ละบุคคล ซึ่งจะสามารถวินิจฉัยและตัดสินใจในเรื่องที่เกี่ยวกับตนเองโดยไม่กระทบต่อบุคคลอื่น รวมทั้งต้องตระหนักว่าตนมีโอกาสในเรื่องต่างๆ ทั้งด้านการศึกษา การทำงาน การได้รับความรักทั้งจากพ่อแม่และคนรอบข้างแล้วเราได้ใช้โอกาส และพึงพอใจที่ได้ใช้โอกาสด้วยตนเองจนทำให้เกิดคุณค่าโดยไม่ตกเป็นเครื่องมือของบุคคลที่ไม่พึงประสงค์ในด้านไม่ดี
การที่เยาวชนสามารถมีส่วนร่วมและมีบทบาทต่อชาติบ้านเมืองได้อย่างเต็มที่นั้น ซึ่งเป็นความสำเร็จของสังคมและประเทศชาติที่สำคัญอย่างมากเนื่องจากเยาวชนเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติให้มีความเจริญรุ่งเรืองในอนาคตด้วย

ความหมายคำขวัญวันเยาวชนแห่งชาติ : ช่วยกันพัฒนา (Development)

ช่วยกันพัฒนา (Development) การที่เยาวชนช่วยกันพัฒนา ซึ่งการพัฒนานั้นมองได้ 2 มิติ มิติหนึ่งคือ การพัฒนาตนเองของแต่ละบุคคล และอีกมิติหนึ่งคือ การพัฒนาสังคมและประเทศชาติ
หากบุคคลพัฒนาตนเองได้ดีก็จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ ขณะเดียวกัน การพัฒนาสังคมและประเทศชาติก็จะเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนาของบุคคลด้วย กระบวนการพัฒนา 2 ส่วนนี้ จึงมีความต่อเนื่อง สัมพันธ์กัน และในสภาวะปัจจุบัน ความร่วมมือในระดับนานาชาติ จะมีผลอย่างสำคัญยิ่งต่อความก้าวหน้าในการพัฒนาประเทศให้มีโอกาสทัดเทียมต่างชาติและมีโอกาสที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาโลกให้มีแต่สิ่งดีๆ เกิดขึ้นต่อไป

ความหมายคำขวัญวันเยาวชนแห่งชาติ : ใฝ่หาสันติ (peace)

ใฝ่หาสันติ (peace) การที่เยาวชนทุกคนรู้จักคำว่าสันติภาพจะเป็นหลักการพื้นฐานของชีวิตมนุษย์เรา การที่มนุษย์มีความต้องการสันติภาพซึ่งเป็นความต้องการของสากลโลก ซึ่งทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกันเพื่อให้เกิดสันติภาพและดำรงคงไว้
การที่เรามีคนหนุ่มสาวจำนวนมากจึงต้องร่วมมือกันในเรื่องนี้ ทำให้เกิดการผลักดันให้เกิดมาตรการที่จะสร้างความเชื่อมั่นในวิถีการพัฒนาด้วยสันติ และสร้างสำนึกสันติภาพ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปลูกฝังสั่งสอนเยาวชนให้รู้จักเคารพในศักดิ์ศรี ความเป็นมนุษย์ และสิทธิมนุษยชน มีความอดกลั้น ความเป็นประชาธิปไตย และเสรีภาพพื้นฐาน การที่เยาวชนรู้จักใฝ่หาสันสิจะทำให้ประเทศเราสงบรวมทั้งทำให้โลกนี้น่าอยู่มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหนก็มีแต่ความเข้าใจและเห็นใจกันทำให้โลกเราเป็นโลกที่ไร้พรมแดนนั้นเอง
เมื่อเรารู้ทั้งประวัติความเป็นมาและคำขวัญและความสำคัญของวันเยาวชนแล้ว เหล่าเยาวชนทั้งหลายควรให้ความสำคัญกับวันนี้ เริ่มจากการตั้งใจเรียน เชื่อฟังพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ทำตัวให้มีประโยชน์ทั้งต่อตนเองและครอบครัว เท่านี้ก็จะทำให้ประเทศของเราน่าอยู่แล้วละ มาเริ่มที่ตัวเรากันเถอะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น